ปัจจัยในการเลือกโรงเรียนอนุบาล หรือ โรงเรียนแรกของลูกรักมีดังนี้
1. แนวการสอนและหลักสูตรของโรงเรียน
สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจและศึกษา คือ ลักษณะ แนวการสอน และหลักสูตรของแต่ละโรงเรียน
เรามาดูกันว่า หลักสูตรอนุบาลมีการแบ่งอย่างไรบ้าง
- หากจะแบ่งตามภาษาคงได้ว่า ต้องการหลักสูตรภาษาไทย สองภาษา (Bi-lingual) หรือ Inter
- หากจะแบ่งตามเนื้อหา คงสามารถแบ่งได้เป็นต้องการ วิชาการ หรือ เตรียมความพร้อม
- หากจะให้แบ่งตามกิจกรรม และ นวัตกรรมการสอน คงแบ่งได้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น Waldorf, Montessori*, Neo-Humanist*, Reggio Emilia*, Project Approach*, Whole Language Approach*, High/Scope* หรือ แม้กระทั่ง แนวพุทธ แนวนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เริ่มขึ้นมา
ก่อนที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองจะตัดสินใจเลือกหาโรงเรียนที่ดีและเหมาะสมกับลูกนั้นคงต้องทำความเข้าใจในตัวลูกก่อนว่า ลูกของเรามีลักษณะการเรียนรู้แบบใด ผู้ปกครองชอบการสอนแบบไหน และอยากให้ลูกเดินไปในทิศทางอะไร คงอาจต้องใช้เวลาในการเข้าชมโรงเรียน สัมภาษณ์ผู้ปกครองแต่ละโรงเรียน หรือ หาข้อมูลเพิ่มเติมมากๆ ก่อนตัดสินใจ
2. ผู้บริหาร
- วิสัยทัศน์ของผู้บริหารโรงเรียน
- ภาวะผู้นำ และการทำงาน
- ทีมบริหาร และที่ปรึกษา
3. ครู
- อัตราส่วนของนักเรียน และครู
- วุฒิ ประสบการณ์การทำงานของครู
- คุณสมบัติ คุณลักษณะ และจรรยาบรรณของครู
4. สถานที่
- สถานที่ตั้ง ใกล้ไกล จากบ้านมากน้อยเพียงไร
- การเดินทาง ที่จอดรถ สะดวกมากน้อยเพียงไร
- ความสะอาด สภาพแวดล้อม การจัดห้องเรียน
- เนื้อที่ จำนวนห้องเรียน ห้องกิจกรรมต่างๆ
- สถานเด็กเล่น เนื้อที่เล่นสำหรับเด็ก และอุปกรณ์ของเล่น
- อัตราส่วนเนื้อที่ กับ จำนวนนักเรียน
- ความร่มรื่น
- ระบบรักษาความปลอดภัย
5. หลักสูตร และกิจกรรม
- เนื้อหาเป็นแบบใด
- หลักสูตร แบบเรียนที่ใช้สอน
- ความหลากหลายของสื่อการสอน
- การวัดและประเมินผล
- ตารางกิจกรรม รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน รายปี
- กิจกรรมพิเศษในเทศกาลต่างๆ
6. นักเรียน
- อัตลักษณ์ และ เอกลักษณ์ ของนักเรียนโรงเรียนนั้น
- จำนวนนักเรียน
- อัตราส่วนนักเรียน ต่อครู ต่อพื้นที่
- ลักษณะเด็กนักเรียน และครอบครัวที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนนั้นๆ
- มีเด็กความต้องการพิเศษเรียนร่วมหรือไม่
7. อาหาร และโภชนาการ
- ความสะอาด และสารอาหารครบหมู่
- มีการตรวจสอบ สุขลักษณะ และอนามัย
- ครัว และการประกอบอาหาร
8. ปัจจัยอื่นๆ
- ผลการสอบเข้าโรงเรียนในระดับประถมศึกษา
- ชื่อเสียง หรือ การทำประโยชน์
- การสื่อสารระหว่างบ้าน และโรงเรียน
- การทำงานร่วมกับชุมชน
จะเห็นได้ว่า การเลือกโรงเรียนอนุบาลให้ลูกรัก ไม่ใช่เรื่องง่าย หากการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ และใช้เวลา ลูกต้องอยู่กับโรงเรียนนั้นหลายปี คงต้องคิดให้ถ้วนถี่ว่า อยากได้การศึกษาแบบใด แนวใด ลักษณะแบบไหน
เด็กแต่ละคนใช้เวลาในการปรับตัวต่างกัน บางคนสามารถเข้าได้ในทุกสถานการณ์ รับความเปลี่ยนแปลงได้เร็ว หากในเด็กบางคนต้องใช้เวลา ใช้ความสัมพันธ์มากๆ ในการจะปรับเปลี่ยนบางสิ่ง
ฝากข้อคิดไว้เตือนใจผู้ปกครองทุกท่าน คุณเป็นผู้เลือกการศึกษาให้ลูก คุณเป็นคนวางกรอบ วางแนวทางให้ลูก โปรดใช้เวลาศึกษา และเลือกสิ่งที่ดี ที่เหมาะสมให้ลูกของท่าน
เผยแพร่ครั้งแรก 1 กุมภาพันธ์ 2559 เพจ GPS by วณลักษณ์
รู้จักกับเรา โรงเรียนอนุบาลวณลักษณ์
——————————————————————————-
นวัตกรรมที่ใช้ในการเรียนการสอนประเภทต่างๆ
*Waldorf
เน้นสอนให้เด็กเรียนรู้ผ่านการเล่น สอนกิจกรรมให้ฝึกทักษะการคิดจินตนาการ ทั้งศิลปะ ดนตรี โดยให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติจริง
*Montessori
เน้นสอนตามพัฒนาการและความต้องการของเด็กเพื่อให้เด็กพึ่งพาตนเองได้ เรียนรู้เป็นรายบุคคล เน้นการเตรียมการสอนของครูตามขั้นตอนโดยใช้อุปกรณ์ในการฝึกประสาทสัมผัสเด็ก
*Neo-Humanist
เป็นการนำศาสตร์ทางตะวันออกผสานความทันสมัยแบบตะวันตก เช่น มีการให้เด็กฝึกสมาธิ ทำโยคะ ขณะเดียวกัน ก็ใช้เสียงเพลงและวิธีการสอนใหม่ๆ ด้วย
*Reggio Emilia
เน้นการสอนให้พ่อแม่ ครู เด็ก ชุมชน มีส่วนร่วมในการจัดสภาพแวดล้อมให้เด็กเรียนรู้ มีการตั้งสมมติฐาน สำรวจแล้วแสดงผลผ่านการวาดภาพ งานปั้น การเล่นละคร การเขียน
*Project Approach
เป็นการสอนด้วยวิธีสะสมแฟ้มผลงานเด็ก โดยสืบค้นหาข้อมูลตามเรื่องที่เด็กสนใจ ค้นหาคำตอบจากคำถามที่เกี่ยวกับหน่วยการเรียนรู้ คำถามนั้นจะมาจากเด็กกับครูร่วมกัน เพื่อให้เด็กรู้จักตัดสินใจ และพ่อแม่มีส่วนร่วม
*Whole Language Approach
เป็นการสอนภาษาแบบบูรณาการ ผ่านการฟัง พูด อ่าน เขียนพร้อมกัน ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง เตรียมความพร้อมทุกด้าน ให้เด็กมีพัฒนาการด้านภาษาได้ง่ายและเร็วขึ้น
*High/Scope
เน้นการเรียนรู้แบบลงมือกระทำผ่านมุมเล่นหลากหลาย ด้วยสื่อและกิจกรรมที่เหมาะกับพัฒนาการ และการแก้ปัญหา แบ่งการสอนเป็นกลุ่มย่อยเพื่อกระตุ้นพัฒนาการ